การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกเป็นการผ่าตัดที่พบได้อย่างสม่ำเสมอ ในเวชปฏิบัติของศัลยแพทย์ตกแต่ง วันนี้เรามาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
ผู้ป่วยกลุ่มไหนที่มักต้องการลดขนาดหน้าอก
คำถามนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา คือผู้ที่จะมาลดขนาดหน้าอก ก็คือกลุ่มที่มีหน้าอกใหญ่ และส่วนใหญ่คนไข้มักมาด้วยอาการปวดหลัง คอบ่าไหล่ มีเชื้อราขึ้นใต้ราวนม และอาจมีแผลที่ไหล่จากการสายเชื้อชั้นในทำให้เกิดแผลเรื้อรัง และมีอาการเจ็บ
ประวัติที่ต้องทราบก่อนจะผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
ในการปรึกษาเพื่อผ่าตัดลดขนาดหน้าอกครั้งแรก แพทย์จะซักประวัติโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ ประวัติการผ่าตัดหน้าอกมากก่อน ประวัติโรคประจำตัวของครอบครัว การตรวจ mammogram ล่าสุด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี เพื่อดูเรื่องของการเป็นมะเร็งเต้านม ประวัติการสูบบุหรี่ อาการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับหน้าอกใหญ่ ตลอดจนขนาดหน้าอกที่ผู้ป่วยต้องการ เพื่อจะได้นำไปสู่การเลือกวิธีการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกที่เหมาะสม
การตรวจร่างกายที่สำคัญ
การตรวจร่างกายก็มีความสำคัญมากๆ นอกจากจะตรวจร่างกายทุกระบบเพื่อการผ่าตัดแล้ว จะต้องตรวจดู ขนาด รูปร่างของหน้าอก คุณภาพของผิวหนัง ถ้ามีรอยย่น เหี่ยวหย่อนของผิวหนัง อาจต้องตัดเนื้อผิวหนังมากกว่าปกติ ตำแหน่งหัวนมและปานนม มีก้อนในเต้านมหรือไม่ และต้องวัดหน้าอกในด้านต่างๆ เพื่อการวางแผนการผ่าตัดเต้านมด้วย
หลังการซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไป
หลังจากซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว ในการวางแผนการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก แพทย์จะประเมินว่าจะลดขนาดเท่าไร ตัดเนื้อหน้าอกออกมากเท่าไร จะต้องยกหัวนมและปานนมขึ้นไปอยู่ตำแหน่งใด ซึ่งทำให้การลงแผลการผ่าตัดที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้หน้าอกมีรูปร่างสวยงามและมีขนาดหน้าอกเล็กลงตามที่ต้องการ จากนั้นจะคุยเรื่องแผนการผ่าตัดอย่างละเอียดกับผู้ป่วย
หลังผ่าตัดแล้วจะมีอาการอย่างไร ต้องพักฟื้นนานเท่าไร
หลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ส่วนใหญ่จะให้ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล 1- 2 วัน เพื่อดูภาวะแทกซ้อน และตรวจเรื่องเลือดที่มาเลี้ยงหัวนมและปานนม จากนั้นจึงให้กลับบ้าน และนัดมาติดตามผลการรักษาที่ 7-10 วันหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอาจมีอาการเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขนาดต้องใช้ยาแก้ปวด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกเบาสบาย อาการปวดหลังคอ บ่อไหล่ดีขึ้น รู้สึกมั่นใจในการเปลี่ยนแปลงของหน้าอกที่ดีขึ้น และมีบุคลิกภาพ การยืนและการทรงตัวดีขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกค่อนข้างมีความปลอดภัยมาก แต่อาจพบได้บ้างคือ การติดเชื้อ การมีเลือดคั่ง แผลแยก ซึ่งพบได้ทั่วไปในการผ่าตัดทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ในการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก พบได้น้อยกว่า 1% ส่วนภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่พบได้น้อยเช่นกัน ได้แก่ หน้าอกมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งพบได้น้อยเนื่องจากในห้องผ่าตัด ศัลยแพทย์จะพยายามทำให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดอยู่แล้ว หัวนมและปานนมมีอาการชา ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเพียงชั่วคราว และมักหายได้ใน 3-6 เดือน และสุดท้ายคือผิวหนังบริเวณหน้าอก เนื้อหน้าอก และหัวนมและปานนมตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่ต้องลดขนาดหน้าอกมากๆ หรือสูบบุหรี่จัด
การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกทำในวัยรุ่นได้ไหม
หน้าอกใหญ่พบได้ทุกช่วงอายุ และส่วนหนึ่งพบในวัยรุ่น และมักมาพบแพทย์เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ หรือมีความอาย ถูกเพื่อนล้อเรื่องหน้าอก จนไม่กล้าเข้าสังคม จึงต้องการมาลดขนาดหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งจะให้การรักษาโดยการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ซึ่งในกลุ่มวัยรุ่นจะต้องทราบว่า หลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกแล้วขนาดหน้าอกอาจจะใหญ่ขึ้นอีกได้ โดยเฉพาะถ้ามีการตั้งครรภ์และคลอดบุตร หน้าอกอาจกลับไปใหญ่อีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ต้องผ่าตัดลดขนาดหน้าอกอีกครั้ง
หลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก แล้วยังจะให้นมบุตรได้อีกหรือไม่
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง เมื่อจะผ่าตัดลดขนาดหน้าอกในคนอายุน้อย จริงๆยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันชัดเจนมากนัก แต่จากเทคนิคผ่าตัด ซึ่งจะตัดส่วนของหน้าอกบางส่วนออกไป แต่ยังมีเนื้อหน้าอกที่ยังติดอยู่กับหัวนมและปานนมอยู่ และไม่ได้ถูกตัดออก ดังนั้นการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกก็ยังน่าจะสามารถให้นมบุตรได้ปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกในวัยรุ่น พบว่า การให้นมบุตรหลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ประสบความสำเร็จ ถึง 70% ซึ่งใกล้เคียงกับในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยผ่าตัดลดขนาดหน้าอกมาก่อน ดังนั้นหลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ถ้าผู้ป่วยตั้งครรภ์ และมีบุตร ก็ควรลองให้นมบุตรได้
รับชมคลิป ยกกระชับหรือลดขนาดหน้าอก เข้าใจใน 7 นาที
ปรึกษาทีมแพทย์ BeContour
ท่านที่มีปัญหาต้องการปรึกษา สอบถามทุกเรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรม สามารถสอบถามได้ทาง LINE @becontour (คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน) หรือโทร 065-528-9264
ทำแบบประเมินคุณเหมาะกับการเสริมหน้าอกแบบไหนผ่านทาง LINE รู้ผลได้ทันที
