ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัด
ข้อปฏิบัติหลังผ่าตัดยกกระชับหน้าท้อง
1. การบวมและการฟกช้ำ
- การบวมและการฟกช้ำจะเกิดได้มากที่สุดใน 48-72 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด แล้วจะค่อยๆดีขึ้นหลังวันที่ 4
- การฟกช้ำจะดีขึ้นภายในระยะเวลาตั้งแต่ 4 วัน และจะหายจนหมดใน 21วัน
- การบวมจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ระยะแรกการบวมจะลดลงอย่างรวดเร็วใน 2-3 สัปดาห์ และจะค่อยๆลดลงอย่างช้าๆจนถึง 3-6 เดือน
- การประคบเย็นโดยการใช้เจลเย็นหรือน้ำแข็งประคบ โดยรองด้วยผ้าสะอาดก่อนประคบบริเวณนั้นๆ ในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดการบวมและการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้
2. อาการปวดและยาระงับปวดหลังผ่าตัด
- อาการปวดหลังการผ่าตัดจะมากที่สุดในวันแรก แล้วจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
- ควรรับประทานยาแก้ปวด เมื่อมีอาการปวดเท่านั้น และไม่รับประทานเกินขนาดตามแพทย์สั่ง
- ยาแก้ปวดอาจทำให้มีผลข้างเคียงในเรื่องของการเวียนศีรษะหรืออาเจียนได้
- ถ้ามีอาการปวดผิดปกติควรติดต่อแพทย์ทันที
3. การใช้ยาต่างๆ
- ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อจนหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- รับประทานยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวได้หลังการผ่าตัด ตามแพทย์พิจารณา
- ห้ามทานยาจำพวกกลุ่มยาแอสไพริน (Aspirin) หรือยาใดๆที่มีส่วนประกอบของแอสไพริน (Aspirin) และวิตามินอี (Vitamin E) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด หรือการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน
4. การดื่มสุราและสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์เนื่องจากสารนิโคตินส่งผลทำให้แผลหายช้าได้
- งดดื่มแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
5. การนอนหลับ
- ภายหลังผ่าตัดควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
- ควรนอนในท่านอนหงาย โดยใช้หมอนข้าง 1-2 ใบรองไว้ใต้เข่า เพื่อให้สะโพกและเข่างอในท่านอน ทำให้แผลหน้าท้องไม่ตึงมาก
- ไม่ควรใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องในการนั่งและลุกจากเตียง ควรตะแคงตัวก่อนดันตัวขึ้นเมื่อจะลุกจากเตียง
- ควรนอนในท่านอนหงายเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ หลังผ่าตัด
- อาจใช้หมอนข้างขนาบด้านข้างลำตัวหรือเอว เพื่อช่วยไม่ให้พลิกตะแคงลำตัว ได้ในขณะที่เผลอ
6. การดูแลแผลผ่าตัด
- เมื่อถอดสายระบายเลือดออกแล้วจึงจะสามารถอาบน้ำได้ หรือเช็ดตัวเบาๆ และซับให้แห้งด้วย ผ้าสะอาด
- สามารถแกะแผ่นปิดแผลกันน้ำ ออกได้ 48 ชั่วโมง หลังจากออกจากโรงพยาบาล
- ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำอย่างน้อย 3-4 วัน หลังการผ่าตัด
- ไม่สัมผัสบริเวณแผลผ่าตัดโดยไม่จำเป็น
- ควรใช้ไม้พันสำลีสำลี หรืออุปกรณ์สำหรับป้ายยาในการทายาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน
- แพทย์จะนัดตัดไหมใน 7-10 วัน ขึ้นกับความตึงของแผล
- ถ้าแผลผิดปกติควรพบแพทย์ทันที เช่น รอยช้ำม่วงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีเลือดหรือน้ำเหลืองออกมามากผิดปกติ
- ถ้าต้องการทายาแก้แผลเป็น ควรเริ่มทาเมื่อแผลหายดี หลังตัดไหม
- งดอาหารหมักดอง Alcohol อย่างน้อย 1-2 เดือน ไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่สามารถทานได้ตามปกติ
7. ชุดยกกระชับหน้าท้อง
- ควรใส่ชุดกระชับหน้าท้อง เป็นเวลา 1-2 เดือน หลังการผ่าตัดทั้งนี้แพทย์ผ่าตัดจะแนะนำอีกครั้ง ว่าให้ใส่ระยะเวลาเท่าไหร่เวลาที่มาพบแพทย์ในครั้งนั้นๆ
8. การออกกำลังกาย
- ระหว่าง 5 วันแรกหลังจากการผ่าตัด สิ่งสำคัญ คือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆ เพราะอาจทำให้ส่งผล ต่อความดันในเลือดแล้วอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการฟกช้ำและภาวะเลือดออกใต้แผลผ่าตัดได้
- ไม่ยืดบริเวณลำตัวเป็นเวลา 1 เดือน
- การออกกำลังกายปกติ สามารถเริ่มได้ทีละน้อย หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์
- ไม่ยกของหนักเกินกว่า 5 กิโลในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าในระยะเวลา 6 เดือน หลังการผ่าตัด
- ไม่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหรือเล่นกีฬาใดๆอย่างน้อย 6 เดือน หลังการผ่าตัด
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
1. ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ได้แก่
- ความเสี่ยงต่อการดมยา
- แผลติดเชื้อ
- ภาวะเลือดออกจากแผลผ่าตัด
- เลือดคั่งบริเวณที่ผ่าตัด
- ลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดดำจนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อปอดและหัวใจ
- มีแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
- แผลหายช้า
- อาการปวดเรื้อรัง
2. ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากการผ่าตัดกระชับหน้าท้อง ได้แก่
- มีน้ำหรือน้ำเหลืองคั่ง
- ผนังหน้าท้องตาย
- ผิวหนังบวมหรือมีสีเปลี่ยนไป
- ผนังหน้าท้องตายหรือแผลแยก
- ผนังหน้าท้องหย่อนคล้อยซ้ำ