การผ่าตัดนี้คืออะไร

การผ่าตัดยกกระชับหน้าอกคืออะไร
การตัดเนื้อเต้านมและผิวหนังที่หย่อนคล้อย จัดทรงรูปร่างเต้านมให้สวยงาม ยกตำแหน่งหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง สามารถทำได้ทั้งยกกระชับเต้านมเพียงอย่างเดียวหรือยกกระชับร่วมกับการเสริมด้วยซิลิโคน การมีเต้านมหย่อนคล้อยมักเกิดหลังการคลอดและให้นมบุตร อายุมากขึ้น หรือเกิดจากการลดน้ำหนักอย่างมาก ซึ่งจะทำให้เต้านมที่เคยสวยงามเริ่มคล้อยและหย่อนลง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในรูปร่างตามมาได้

การมีเต้านมหย่อนคล้อยมักเกิดจาก :
- หลังการคลอด
- ให้นมบุตร
- การลดน้ำหนักอย่างมาก
- อายุมากขึ้น
- แรงโน้มถ่วง

ข้อดีและข้อเสียของการลดขนาดหน้าอก
ข้อดี :
- แก้ไขหน้าอกให้มีรูปทรงที่สวยงาม เหมาะสมกับร่างกาย
- ทำให้หน้าอกและหัวนมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- ทำให้ความมั่นใจกลับคืนมา
ข้อเสีย :
- เต้านมหลังผ่าตัดอาจมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย และเนินนมอาจไม่เต็ม ถ้าไม่ได้เสริมซิลิโคนร่วมด้วย ในกรณีที่ยกกระชับหน้าอกและเสริมด้วยซิลิโคน อาจไม่สามารถเลือกซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่มากได้ เพราะจะทำให้การยกกระชับมีข้อจำกัด เนื่องจากผิวหนังอาจตึงเกินไป ไม่สามารถเย็บแผลปิดหรือมีปัญหาเรื่องแผลแยกได้
- ไม่สามารถแก้ไขความห่างของหน้าอกได้ในบางกรณี
- สามารถแก้ความไม่เท่ากันของเต้านมทั้งสองข้างได้แต่ไม่ 100%

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

1. ปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่ง เกี่ยวกับการผ่าตัดโดยละเอียด ทั้งขั้นตอนและวิธีการผ่าตัด แผลผ่าตัด ระยะเวลาผ่าตัด ผลการผ่าตัด ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และข้อปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด ในกรณีที่ต้องการใส่ซิลิโคนร่วมด้วยจะต้องเลือกขนาดและชนิดของถุงซิลิโคน ตำแหน่งของถุงซิลิโคนที่เหมาะสม ถ้าอายุมากกว่า 40 ปี หรืออายุน้อยกว่า 40 ปี แต่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาจต้องทำแมมโมแกรม (Mammogram) ร่วมด้วย
2. ตรวจสุขภาพ ร่างกายโดยอายุรแพทย์ พร้อมเจาะเลือดและเอกซเรย์ตามมาตรฐานความปลอดภัยในการผ่าตัด
3. รับประทานยาและปรับยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
4. หยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
5. หยุดยาละลายลิ่มเลือด ยาลดการอักเสบ สมุนไพรที่ทำให้เลือดออกหรือช้ำได้ง่าย รวมถึงอาหารเสริมประเภทต่างๆ ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์หรือตามแพทย์สั่ง
6.) หยุดยาละลายลิ่มเลือด ยาลดการอักเสบ สมุนไพรที่ทำให้เลือดออกหรือช้ำได้ง่าย

การผ่าตัดมีวิธีและขั้นตอนอย่างไร

วิธีการผ่าตัด

แผลผ่าตัดที่ใช้ในการยกกระชับหน้าอกที่นิยมมีอยู่ 3 ชนิด คือ

1. แผลผ่าตัดรอบปานนม (Circumareolar Incision)
ข้อดี : แผลเป็นน้อย มีเฉพาะรอบลานนมเท่านั้น
ข้อเสีย : ลดขนาดเต้านมได้ไม่มาก ยกหัวนมขึ้นได้ไม่เกิน 2 เซนติเมตร และลานหัวนมอาจผิดรูปได้


2. แผลผ่าตัดแบบตั้ง (Vertical Incision)

ข้อดี : แผลผ่าตัดสั้น ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อย
ข้อเสีย : เก็บผิวหนังส่วนเกินได้เฉพาะในแนวตั้งเท่านั้น ตัดเนื้อเต้านมที่หย่อนคล้อยได้ไม่มาก เต้านมช่วงแรกดูไม่สวย ต้องรอเวลาประมาณ 3-6 เดือนจึงเข้ารูปดูเป็นธรรมชาติ

3. แผลผ่าตัดรูปตัว T หัวกลับ (inverted T Incision)
ข้อดี : แก้รูปทรงและความหย่อนคล้อยได้ตามต้องการ รูปร่างเต้านมสวยและใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ตัดผิวหนังส่วนเกินได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
ข้อเสีย : ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน แผลผ่าตัดยาว

ชนิดของถุงซิลิโคน
การเลือกชนิดของถุงซิลิโคน สามารถแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ

1. ซิลิโคนน้ำเกลือ หรือ Saline Breast Implant ในปัจจุบันศัลยแพทย์ไม่นิยมใช้ซิลิโคนชนิดนี้ แล้ว เนื่องจากความเสี่ยงในการรั่วซึมภายใน 2. ซิลิโคนเจล หรือ Silicone Breast Implant ตัวเจลมีความคงตัวแต่มีความนิ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนเต้านมธรรมชาติ หากซิลิโคนเกิดแตก ตัวเจลจะคงรูปไม่ไหลออกเหมือนกับน้ำเกลือ การทำอัลตร้าซาวน์หรือเอ็มอาร์ไอสามารถเห็นได้ว่าซิลิโคนยังคงรูปดี หรือไม่ หรือมีความผิดปกติ อย่างไร ถุงซิลิโคนชนิดนี้ยังแบ่งได้อีกหลายแบบ ตามผิวและรูปร่างของถุงซิลิโคน คือ 2.1) ซิลิโคนทรงกลม (Round Breast Implant ) เป็นซิลิโคนที่เป็นที่นิยมมากที่สุด สามารถทำให้หน้าอกดูมีเนินหน้าอก พุ่งสวย ซิลิโคนทรงกลมมีลักษณะเป็นทรงกลม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการหมุน แบ่งออกเป็นผิวเรียบและผิวทรายโดย

- แบบพื้นผิวเรียบ (smooth) ถุงซิลิโคนสามารถเคลื่อนไหวและเปลี่ยนทิศทางของซิลิโคนได้ ให้ความรู้สึกสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ แต่มีข้อเสีย คือ มีโอกาสเกิดพังผืดรัดถุงเต้านม (Capsular contracture) สูงกว่าผิวทราย เมื่อวางอยู่ชั้นเหนือกล้ามเนื้อ แต่โอกาสเกิดจะไม่ต่างกันถ้าวางชั้นใต้กล้ามเนื้อ - แบบผิวทราย (Textured) มีข้อดี คือ ลดการเกิดพังผืดรัดถุงเต้านม แต่มีโอกาสคลำได้เป็นคลื่นของผิวถุงซิลิโคน (rippling) มากกว่าถ้าเทียบกับผิวเรียบ ภายหลังติดตามผลของการเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนพบว่า ซิลิโคนชนิดผิวทรายมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เรียกว่า “BIA-ALCL” (Breast Implant Related- Anaplastic Large Cell Lymphoma) แต่อัตราการเกิด ประมาณ 1: 3,000-80,000 ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของถุงซิลิโคน

2.2) 2.2) ซิลิโคนทรงหยดน้ำ (Teardrop breast implant) จะให้ความเป็นธรรมชาติ รูปทรงซิลิโคนดูคล้ายหยดน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานหน้าอกสั้น หรือ หน้าอกที่มีเนื้อน้อยมาก และต้องการหน้าอกธรรมชาติ ไม่ชอบเนินหน้าอกมากๆ ถุงซิลิโคนชนิดนี้มีแต่เป็นผิวทรายเท่านั้น เพื่อป้องกันการหมุนของถุงซิลิโคน ปัจจุบันมีถุงซิลิโคนรุ่นใหม่ที่เป็นทรงกลม แต่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ตามท่าทางได้ ซึ่งจะทำให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น และผิวทรายละเอียดมากขึ้น ทำให้ลดการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ข้อมูลยังไม่มากเพียงพอ

การวางตำแหน่งของซิลิโคน

การวางถุงซิลิโคน สามารถวาง 4 ตำแหน่ง คือ

 

1. ใต้เนื้อเต้านม (Subglandular plane) เป็นการวางถุงซิลิโคนใต้เนื้อเต้านม เหนือกล้ามเนื้อ
ข้อดี คือ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดการเคลื่อนไหวตามกล้ามเนื้อ (animation deformity) และแก้ไขเต้านมคล้อยได้บ้าง
ข้อเสีย คือ อาจคลำถุงซิลิโคนได้ในผู้ที่เนื้อเต้านมบางและเกิดพังผืดรัดเต้านม (capsular contracture) ได้มากกว่าตำแหน่งอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ ถุงซิลิโคนผิวเรียบ
2. ใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (Subfascial plane) เป็นการวางถุงซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ แต่อยู่ใต้ต่อเยื่อหุ้ม กล้ามเนื้อ
ข้อดี เหมือนวางใต้เนื้อเต้านม แต่ลดการเกิดพังผืดรัดเต้านม (capsular contracture)ได้
ข้อเสีย คือ อาจคลำถุงซิลิโคนได้ในผู้ป่วยเนื้อเต้านมบาง ๆ
3. ใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular plane) เป็นการวางถุงซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ
ข้อดี คือ ลดการเกิดพังผืดรัดเต้านม (capsular contracture) โดยเฉพาะเมื่อใส่ถุงซิลิโคนผิวเรียบ คลำถุงซิลิโคนยากกว่าเพราะมีกล้ามเนื้อคลุม
ข้อเสีย คือ หลังผ่าตัดเจ็บกว่าใต้เนื้อเต้านมและใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ เกิดการเคลื่อนไหวตามกล้ามเนื้อ (animation deformity)
4. Dual plane เป็นการวางถุงซิลิโคนเหมือนการวางใต้กล้ามเนื้อ แต่ตัดส่วนล่างของกล้ามเนื้อออกจากกระดูกซี่โครง ทำให้ถุงซิลิโคนส่วนบนอยู่ใต้กล้ามเนื้อ แต่ส่วนล่างไม่มีกล้ามเนื้อคลุม
ข้อดี เหมือนใต้กล้ามเนื้อ แต่สามารถแก้ไขเต้านมคล้อยได้เหมือนใต้เนื้อเต้านม
ข้อเสีย เหมือนใต้กล้ามเนื้อ

การผ่าตัดเหมาะสมกับใครและไม่เหมาะสมกับใคร

คุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมสำหรับการเสริมหน้าอก

- อายุมากกว่า 18 ปี
- ร่างกายแข็งแรง (ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร)
- มีความกังวลใจเรื่องหน้าอกหย่อนคล้อย
- มีความไม่พอใจในรูปทรงหน้าอกที่เปลี่ยนไป หลังคลอดบุตร, ลดน้ำหนักหรืออายุที่เพิ่มขึ้น
- ตำแหน่งหัวนม อยู่ต่ำจากปกติหรือชี้ลงด้านล่างเนื่องจากความหย่อนคล้อยและขาดเนื้อนมและไขมัน
- หน้าอกไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดทั้งสองข้าง ยอมรับได้ว่า เมื่อผ่าตัดยกกระชับเต้านมแล้วจะมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไป จากความเคยชินที่มีหน้าอกใหญ่ตลอดเวลา มีความคาดหวังในผลลัพธ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง

ผลของการผ่าตัด

- ผลลัพธ์จะเปลี่ยนแปลงในทันทีหลังการผ่าตัดและจะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายในหกเดือนถึงหนึ่งปี
- ช่วงแรกหลังการผ่าตัดอาจมีอาการบวม โดยจะค่อยๆดีขึ้นในเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
- แผลเป็นหลังการผ่าตัด อาจดีหรือไม่ดี ขึ้นกับพันธุกรรมและการดูแลแผลหลังการผ่าตัด ซึ่งแผลเป็นจะคงที่อาจใช้เวลาถึง 1-2 ปี
- การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะทำให้ผลการรักษาดีที่สุด

การฟื้นตัวหลังการผ่าตัด

- หลังผ่าตัดมีผ้าปิดแผลและผ้ารัดเต้านม รวมทั้งมีสายระบายเลือดออกมาจากผิวหนังบริเวณผ่าตัด
- การตัดไหม แพทย์จะนัดมาตัดไหม หลังการผ่าตัด 5-7 วัน ขึ้นกับความตึงของแผล
สามารถกลับไปทำงานได้ใน 14 วันหลังการผ่าตัด

ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัด

ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัด

1.) การบวมและการฟกช้ำ - การบวมและการฟกช้ำจะเกิดได้มากที่สุดใน 48-72 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด แล้วจะค่อยๆดีขึ้นหลังวันที่ 4 - การฟกช้ำจะดีขึ้นภายในระยะเวลาตั้งแต่ 4 วัน และจะหายจนหมดใน 21วัน - การบวมจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ระยะแรกการบวมจะลดลงอย่างรวดเร็วใน 2-3 สัปดาห์ และจะค่อยๆลดลงอย่างช้าๆจนถึง 3-6 เดือน - การประคบเย็นโดยการใช้เจลเย็นหรือน้ำแข็งประคบ โดยรองด้วยผ้าสะอาดก่อนประคบบริเวณนั้นๆ ในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดการบวมและการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้

2.) อาการปวดและยาระงับปวดหลังผ่าตัด - อาการปวดหลังการผ่าตัดจะมากที่สุดในวันแรก แล้วจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ - ควรรับประทานยาแก้ปวด เมื่อมีอาการปวดเท่านั้น และไม่รับประทานเกินขนาดตามแพทย์สั่ง - ยาแก้ปวดอาจทำให้มีผลข้างเคียงในเรื่องของการเวียนศีรษะหรืออาเจียนได้ - ถ้ามีอาการปวดผิดปกติควรติดต่อแพทย์ทันที

3.) การใช้ยาต่างๆ - ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อจนหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ - รับประทานยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวได้หลังการผ่าตัด ตามแพทย์พิจารณา - ห้ามทานยาจำพวกกลุ่มยาแอสไพริน (Aspirin) หรือยาใดๆที่มีส่วนประกอบของแอสไพริน (Aspirin) และวิตามินอี (Vitamin E) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด หรือการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน

4.) การดูแลแผลผ่าตัด - เมื่อถอดสายระบายเลือดออกแล้วจึงจะสามารถอาบน้ำได้ หรือเช็ดตัวเบาๆ และซับให้แห้งด้วย ผ้าสะอาด - สามารถแกะแผ่นปิดแผลกันน้ำ ออกได้ 48 ชั่วโมง หลังจากออกจากโรงพยาบาล - ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำอย่างน้อย 3-4 วัน หลังการผ่าตัด - ไม่สัมผัสบริเวณแผลผ่าตัดโดยไม่จำเป็น - ควรใช้ไม้พันสำลี หรืออุปกรณ์สำหรับป้ายยาในการทายาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน - แพทย์จะนัดตัดไหมใน 7-10 วัน ขึ้นกับความตึงของแผล - ถ้าแผลผิดปกติควรพบแพทย์ทันที - ถ้าต้องการทายาแก้แผลเป็น ควรเริ่มทาเมื่อแผลหายดี หลังตัดไหม

5.) ชุดยกกระชับหน้าอก - ควรใส่ชุดกระชับหน้าอกหรือ support bra ( Bra ไม่มีโครงลวด )ตลอดเวลา เป็นเวลา 1-2 เดือน หลังการผ่าตัด - หลังจาก 6 เดือนแล้ว ควรใส่เสื้อชั้นในปกติได้ เพื่อให้ได้ผลดีในระยะยาว

6.) การนวดเต้านม - ทำเฉพาะในรายที่เสริมเต้านมด้วยถุงซิลิโคนทรงกลมเท่านั้น - การนวดเต้านมเริ่มทำได้ 3-4 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด - ควรนวดวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง หลังอาบน้ำ โดยนวดครั้ง ละ 5-10 นาที

7.) การออกกำลังกาย - ระหว่าง 5 วันแรกหลังจากการผ่าตัด สิ่งสำคัญ คือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆ เพราะอาจทำให้ส่งผล ต่อความดันในเลือดแล้วอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการฟกช้ำและภาวะเลือดออกใต้แผลผ่าตัดได้ - การออกกำลังกายปกติ สามารถเริ่มได้ทีละน้อย หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ - ไม่ยกของหนักเกินกว่า 5 กิโลในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด - หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าในระยะเวลา 6 เดือน หลังการผ่าตัด - ไม่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหรือเล่นกีฬาใดๆอย่างน้อย 6 เดือน หลังการผ่าตัด

8.) การนอนหลับ - ภายหลังผ่าตัดควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ - นอนยกศีรษะสูงโดยหนุนหมอน 2 ใบ จะช่วยลดอาการบวมได้ - ควรนอนในท่านอนหงายอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ อาจใช้หมอนข้างขนาบด้านข้างลำตัวหรือเอว เพื่อช่วยไม่ให้พลิกตะแคงลำตัว ได้ในขณะที่เผลอ

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด

1. ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ได้แก่ - ความเสี่ยงต่อการดมยา
- แผลติดเชื้อ
- เลือดคั่งบริเวณผ่าตัด
- ภาวะเลือดออกจากแผลผ่าตัด
- ลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดดำจนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อปอดและหัวใจ
- มีแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
- แผลหายช้า
- ชาบริเวณหัวนม
- ชาบริเวณหัวนมและเต้านม ส่วนใหญ่จะดีขึ้นหลัง 3-6 เดือน
- คลำได้ถุงซิลิโคน
– Wound Separation
- พังผืดรัดถุงเต้านม ทำให้เต้านมผิดรูป
- หัวนมและปานนมมีเลือดเลี้ยงไม่พอ
- พังผืดรัดถุงเต้านม ทำให้เต้านมผิดรูป
- คลำได้ผิวหนังเป็นคลี่นของถุงซิลิโคน
- การตั้งครรภ์หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังการผ่าตัดมีผลต่อรูปทรงและอาจจะต้องแก้ไขใหม่

รีวิว

รีวิวศัลยกรรมนมผิดรูป แก้นมกระจุก Tuberous Breast คืออะไร แก้ยังไง?

Tuberous Breast คืออะไร? หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “นมกระจุก” หรือ “นมทรงมะละกอ” ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นชื่อเรียกที่ใช้พูดถึงภาวะที่เรียกว่า Tuberous Breast หรือหน้าอกที่มีความผิดปกติในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเต้านม บทความนี้จะอธิบายลักษณะ ความผิดปกติ และวิธีการรักษาให้เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างจากเคสจริง ตัวอย่างผู้ป่วยจริง: นมกระจุกผิดรูป และไม่เท่ากัน หลายเดือนมานี้ผมได้รับปรึกษาเคสผู้ป่วยที่มีหน้าอกเจริญผิดปกติมาหลายเคส ซึ่งแบบหนึ่งที่พบได้ค่อนข้างจะบ่อยคือ Tuberous breast Tuberous breast เป็นความผิดปกติของการเจริญของหน้าอกในผู้หญิงซึ่งพบพบได้บ่อยมาก ในบางรายงานสูงถึง 27.6% เลยทีเดียว โดยหน้าอกชนิดนี้จะมีความผิดปกติที่ฐานหน้าอกแคบ เนื้อนมเจริญไม่เต็มที่ ทำให้นมกระจุกอยู่ตรงกลาง และเนื้อนมไหลเข้ามาในปานนมทำให้ปานนมมีขนาดใหญ่มาก และนมมีลักษณะหย่อนคล้อยลงมา ตามรูป ในผู้ป่วยรายนี้จะเห็นฐานนมค่อนข้างแคบมากเนื้อนมกระจุกอยู่ตรงกลางและห้อยเข้ามาในบริเวณของปานนมทำให้ปานนมมีขนาดใหญ่มาก นอกจากนี้หน้าอกสองข้างยังไม่เท่ากันด้วย เต้านมด้านขวามีขนาดใหญ่กว่าเต้านมด้านซ้าย วางแผนการผ่าตัด: เป้าหมายเพื่อสร้างหน้าอกที่สมส่วน การผ่าตัดแก้ไขในรายนี้สิ่งที่จะต้องทำคือ การขยายขนาดฐานของ เต้านมให้เป็นปกติเต็มหน้าอกเหมือนคนทั่วไป สร้างราวนมใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จัดการเนื้อนมที่อยู่ตรงกลางให้กระจายออกไปทางด้านข้าง เพื่อให้กระจายเต็มทั้งหน้าอก พร้อมทั้งจัดตำแหน่งหัวนมและให้อยู่ตำแหน่งที่ดี และปานนมมีขนาดใกล้เคียงกับปกติ ในผู้ป่วยรายนี้ได้วางแผนการรักษาโดยการขยายขนาดฐานของเต้าตามเส้นที่แสดง โดยเฉพาะด้านล่างซึ่งจะเป็นตำแหน่งของนมใหม่สำหรับคนไข้ จากนั้น เลาะเปิดผิวหนัง ให้แยกจากเนื้อนมตามเส้นแสดงใหม่เมื่อเราเปิดเนื้อนมออกแล้วเราจะเห็นว่าเนื้อนมกระจุกอยู่ตรงกลางเท่านั้น จึงได้ตัดเนื้อนมส่วนล่างออกเป็นส่วนส่วนตามภาพเพื่อให้เนื้อนมไม่กระจุกกันอยู่ตรงกลาง แต่จะยืดขยายออกไปให้เต็มหน้าอก […]

รีวิวลดขนาดหน้าอกใหญ่ พร้อมปลูกถ่ายย้ายหัวนม และปานนม

เทคนิคการเสริมหน้าอกที่ใช้ ลดขนาดหน้าอกใหญ่ พร้อมปลูกถ่ายย้ายหัวนม และปานนม Breast Reduction with Free Nipple Graft เจาะลึกเคส แก้ปัญหาเต้านมขนาดใหญ่ พร้อมปลูกถ่ายย้ายหัวนม และปานนม หลังประตู OR วันนี้ คุยเคสเรื่องการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกใหญ่ พร้อมปลูกถ่ายย้ายหัวนม และปานนม ร่วมคุยเคสโดย อ.พรเทพ อ.ฝน อ.โฮป และ อ.เอี้ยง 5 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับคนหน้าอกใหญ่ รศ.นพ.พรเทพ พึ่งรัศมี การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทางสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งใน USA ได้แนะนำแนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยที่มีหน้าอกใหญ่ update ใหม่ล่าสุด โดยรวมรวมจาก 114 การศึกษา คลิปนี้จะมาสรุปเรื่องที่น่าสนใจ 5 ข้อต้องรู้กัน อ่านเพิ่มเติม > รับชมคลิป 5 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับคนหน้าอกใหญ่  ปรึกษาทีมแพทย์ BeContour ท่านที่มีปัญหาต้องการปรึกษา สอบถามทุกเรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรม สามารถสอบถามได้ทาง LINE @becontour (คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน) หรือโทร […]

รีวิวแก้ไข เต้านมเป็นริ้ว เป็นคลื่น

เทคนิคการเสริมหน้าอกที่ใช้ แก้ไขเสริมและยกกระชับหน้าอก Motiva Ergonomix 265CCs โดยแผลรอบปานนมเท่านั้น พร้อมเลาะพังผืด และเติมไขมัน Breast Augmentation with Lift (Donut Lift Incision) + Capsulectomy + Breast Lipofilling หน้าอกเป็นริ้ว เป็นคลื่น แก้ไขได้ รศ.นพ.พรเทพ พึ่งรัศมี หลายๆคนที่เสริมหน้าอกมาแล้ว แรกๆก็ดูสวยดี แต่นานวันเป็นหน้าอกเป็นคลื่น บางคนแค่ดูก็เห็นแล้ว แต่บางคนต้องคลำจึงพบได้ วันนี้เรามาคุยกันว่าหน้าอกเป็นคลื่น เป็นริ้ว เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ หน้าอกเป็นริ้ว เป็นลูกคลื่น หลังการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน หรือเรียกว่า rippling เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยพอสมควร ถึงจะไม่มากเท่าพังผืดรัดเต้านม แต่พบได้เกือบ 10 % แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมาแก้ไข ส่วนใหญ่พบด้านล่างด้านนอก หรือร่องอกด้านบน ดังรูป ซึ่งเป็นบริเวณที่เนื้อนมค่อนข้างบางกว่าบริเวณอื่น อ่านเพิ่มเติม > รับชมคลิป หน้าอกเป็นริ้ว เป็นคลื่น […]

รีวิว แก้ไข เต้านมทรงมะละกอ (Tuberous Breast)

เดิมทีจากที่เคยล้มเลิกความคิดจะทำหน้าอก เนื่องจากหน้าอกหย่อนคล้อยมีความเสี่ยงที่จะทำมาแล้วไม่สวย แต่ได้มีโอกาสมาปรึกษากับอาจารย์พรเทพ อาจารย์ตอบได้ทุกข้อกังวลแบบไม่มีข้อสงสัยเหลืออยู่เลย จึงตัดสินใจทำหลังจากที่ได้ปรึกษา หลังจากทำแล้วประทับใจพี่พยาบาล พี่แอดมินคอยดูแลดีมากปรึกษาดึกแค่ไหนก็ตอบ และขอขอบคุณอาจารย์พรเทพที่ทำสุดฝีมือทำให้แผลออกมาสวยและรูปทรงสวยมากค่ะ เปลี่ยนชีวิตและเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ประทับใจมากค่ะ เทคนิคการเสริมหน้าอกที่ใช้ Breast Augmentation with Lift, Donut incision (Peri-areolar lifting), dual plane placement, 315cc, Full, Motiva Ergonomix ยกกระชับพร้อมเสริมหน้าอก แผลรอบปานนม และใต้ราวนม ขนาด 315 cc, Full, ซิลิโคน รุ่น Motiva Ergonomix รูป Before & After 7 days   นมกระจุก ฐานนมแคบ แก้ไขได้ หลายคนที่มีทรงและรูปร่างหน้าอกผิดปกติ ไม่ต้องการให้ใครเห็น ไม่ต้องการให้ใครมอง เกิดความไม่มั่นใจ แม้ว่าจะใส่เสื้อผ้าก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้ ไม่สบายใจ มีแฟนก็ไม่มั่นใจ เพราะกังวลไปหมด […]

ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ก่อนผ่าตัดยกกระชับหน้าอก และตัดหนังหน้าท้อง

รีวิว ตรวจร่างกาย เตรียมพร้อมก่อนยกกระชับหน้าอก ตัดหนังหน้าท้อง 360 องศา ต้องตรวจอะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไร ตรวจร่างกายเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ตรวจการทำงานของไต (BUN) ตรวจโรคเอดส์ (Anti-HIV) ตรวจการทำงานของไต (Creatinine) ตรวจระดับเกลือแร่ในร่างกาย (Electrolyte) ตรวจการแข็งตัวของเลือด (PT) ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) พบอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ เพื่อคัดกรองโควิด ตรวจเอกซเรย์ปอด พบอายุรแพทย์โรคหัวใจ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ชมคลิป ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ก่อนผ่าตัดยกกระชับหน้าอก และตัดหนังหน้าท้อง

รีวิว ยกกระชับหน้าอก และตัดหนังหน้าท้อง 360 องศา

ลดความอ้วน แล้วหนังย้วย มีทางแก้ การลดน้ำหนักหลายกิโลภายในระยะเวลาอันสั้นทำให้เกิดผิวหนังหย่อนคล้อยตามร่างกาย จุดที่เราคิดว่าเยอะมากที่สุดก็คือหน้าท้อง และหน้าอกค่ะ เราทำการศึกษามาเป็นระยะเวลาหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาในด้านนี้ เมื่อมีโอกาสได้รู้จักอาจารย์พรเทพ จึงทำให้การตัดสินใจง่ายและรวดเร็วค่ะ อาจารย์ให้คำแนะนำและชี้แจงในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหา ขั้นตอนการทำ ข้อดี ข้อเสีย และวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดค่ะ เมื่อได้พูดคุยแล้วเราใช้เวลาในการตัดสินใจผ่าตัดหนังส่วนเกินไม่นานหรือแทบจะตัดสินใจในทันทีค่ะ นอกจากนี้ยังเลือกการผ่าตัดยกกระชับหน้าอกเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากมั่นใจในความรู้ ความสามารถและความชำนาญของอาจารย์และทีมงานทุกคน รวมทั้งสถานที่ที่ใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้ซึ่งคือโรงพยาบาลชั้นนำ ทำให้เราเชื่อมั่นในคุณภาพ แทบจะไม่มีความกังวลใดใดในการผ่าตัดครั้งนี้เลย การผ่าตัดไม่ได้เจ็บอย่างที่หลายๆคนกล่าวไว้ เราฟื้นตัวไวมาก ๆ ค่ะ หลังการผ่าตัดผ่านไปเพียงแค่ 1 วันก็สามารถที่จะขยับตัว ลุกและเดินได้เองค่ะ หลังการผ่าตัดก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ตั้งแต่วันแรกที่ผ่าตัดจนกระทั่งกลับมาอยู่บ้าน หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย อาจารย์พรเทพและทีมงานก็คอยตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีค่ะ หลังการผ่าตัดผ่านมาประมาณ 1 เดือน เรารู้สึกพึงพอใจกับการผ่าตัดมาก ๆ ค่ะ เนื้อส่วนเกินหายไปในพริบตา เรารู้สึกสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น แต่ละวันสามารถแต่งตัวได้หลากหลายขึ้น และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ ในส่วนของหน้าอกก็ออกมาเป็นทรงที่สวยงาม ดูธรรมชาติอย่างที่อยากได้มาก ๆ เราคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี และทำให้เรามีความสุขมาก ๆค่ะ อยากจะขอขอบคุณอาจารย์พรเทพและทีมงานทุกคนมาก ๆนะคะที่เติมเต็มความสุขให้กับชีวิตของเราค่ะ […]

คำถามที่พบบ่อย

Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur
Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur Lorem ipsum dolor sit amet, cons ectetur