การผ่าตัดมีวิธีและขั้นตอนอย่างไร
อะไรคือสิ่งที่ควรคาดหวังระหว่างการปรึกษากับแพทย์
ศัลยแพทย์
- จะประเมินประวัติสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยง
- วัดขนาดเต้านมปัจจุบัน ทั้ง ขนาด,รูปทรง,ความยืดหยุ่นของผิวและตำแหน่งของหัวนมและปานนม
- ถ่ายรูปก่อนการผ่าตัด
- แจ้งข้อบกพร่องและคำแนะนำวิธีการแก้ไข, ผลลัพธ์หลังผ่าตัดที่คาดไว้และความเสี่ยงในการผ่าตัด
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการผ่าตัด เนื่องจากศัลยแพทย์จะต้องมั่นใจว่าผู้ที่ได้รับการรักษาเข้าใจและยอมรับผลลัพธ์ ทั้งข้อดี,ข้อด้อย,ข้อจำกัดในการแก้ไขหน้าอก รวมถึงความเสี่ยงต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างผ่าตัดหรือหลังผ่าตัด
ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัด
ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัด
1.) การบวมและการฟกช้ำ
- การบวมและการฟกช้ำจะเกิดได้มากที่สุดใน 48-72 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด แล้วจะค่อยๆดีขึ้นหลังวันที่ 4
- การฟกช้ำจะดีขึ้นภายในระยะเวลาตั้งแต่ 4 วัน และจะหายจนหมดใน 21วัน
- การบวมจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ระยะแรกการบวมจะลดลงอย่างรวดเร็วใน 2-3 สัปดาห์ และจะค่อยๆลดลงอย่างช้าๆจนถึง 3-6 เดือน
- การประคบเย็นโดยการใช้เจลเย็นหรือน้ำแข็งประคบ โดยรองด้วยผ้าสะอาดก่อนประคบบริเวณนั้นๆ ในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดการบวมและการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้
2.) อาการปวดและยาระงับปวดหลังผ่าตัด
- อาการปวดหลังการผ่าตัดจะมากที่สุดในวันแรก แล้วจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
- ควรรับประทานยาแก้ปวด เมื่อมีอาการปวดเท่านั้น และไม่รับประทานเกินขนาดตามแพทย์สั่ง
- ยาแก้ปวดอาจทำให้มีผลข้างเคียงในเรื่องของการเวียนศีรษะหรืออาเจียนได้
- ถ้ามีอาการปวดผิดปกติควรติดต่อแพทย์ทันที
- ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อจนหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- รับประทานยาเพื่อรักษาโรคประจำตัวได้หลังการผ่าตัด ตามแพทย์พิจารณา
- ห้ามทานยาจำพวกกลุ่มยาแอสไพริน (Aspirin) หรือยาใดๆที่มีส่วนประกอบของแอสไพริน (Aspirin) และวิตามินอี (Vitamin E) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด หรือการฟกช้ำที่เกิดขึ้นได้ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน
3.) การดื่มสุราและสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์เนื่องจากสารนิโคตินส่งผลทำให้แผลหายช้าได้
- งดดื่มแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
4.) การดูแลแผลผ่าตัด
- เมื่อถอดสายระบายเลือดออกแล้วจึงจะสามารถอาบน้ำได้ หรือเช็ดตัวเบาๆ และซับให้แห้งด้วย ผ้าสะอาด
- สามารถแกะแผ่นปิดแผลกันน้ำ ออกได้ 48 ชั่วโมง หลังจากออกจากโรงพยาบาล
- ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำอย่างน้อย 3-4 วัน หลังการผ่าตัด
- ไม่สัมผัสบริเวณแผลผ่าตัดโดยไม่จำเป็น
- ควรใช้ไม้พันสำลี หรืออุปกรณ์สำหรับป้ายยาในการทายาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน
- แพทย์จะนัดตัดไหมใน 5-7 วัน ขึ้นกับความตึงของแผล
- ถ้าแผลผิดปกติควรพบแพทย์ทันที
- ถ้าต้องการทายาแก้แผลเป็น ควรเริ่มทาเมื่อแผลหายดี หลังตัดไหม
5.) ชุดยกกระชับหน้าอก
- ควรใส่ชุดกระชับหน้าอกหรือ support bra ( Bra ไม่มีโครงลวด )ตลอดเวลา เป็นเวลา 1-2 เดือน หลังการผ่าตัด
- หลังจาก 2 เดือนแล้ว ควรใส่เสื้อชั้นในปกติได้ เพื่อให้ได้ผลดีในระยะยาว
- หลังจาก 6 เดือนแล้ว ควรใส่เสื้อชั้นในปกติได้ เพื่อให้ได้ผลดีในระยะยาว
6.) การนวดเต้านม
- ทำเฉพาะในรายที่เสริมเต้านมด้วยถุงซิลิโคนทรงกลมเท่านั้น
- การนวดเต้านมเริ่มทำได้ 3-4 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
- ควรนวดวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง หลังอาบน้ำ โดยนวดครั้ง ละ 5-10 นาที
7.) การออกกำลังกาย
– Avoid exercise for at least 2 months after surgery.
- ไม่ยกของหนักเกินกว่า 5 กิโลในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- การออกกำลังกายปกติ สามารถเริ่มได้ทีละน้อย หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าในระยะเวลา 6 เดือน หลังการผ่าตัด
- ไม่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหรือเล่นกีฬาใดๆอย่างน้อย 6 เดือน หลังการผ่าตัด
8.) การนอนหลับหลังผ่าตัด
- ภายหลังผ่าตัดควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
- นอนยกศีรษะสูงโดยหนุนหมอน 2 ใบ จะช่วยลดอาการบวมได้
- ควรนอนในท่านอนหงายอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ อาจใช้หมอนข้างขนาบด้านข้างลำตัวหรือเอว เพื่อช่วยไม่ให้พลิกตะแคงลำตัว ได้ในขณะที่เผลอ
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด
ในการตัดสินใจผ่าตัดแก้ไขหน้าอกนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะต้องชั่งน้ำหนักถึงผลดีผลเสียและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจทำ เนื่องจากการผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยง
1. ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ได้แก่
- ความเสี่ยงต่อการดมยา
- แผลติดเชื้อ
- เลือดคั่งบริเวณผ่าตัด
- ภาวะเลือดออกจากแผลผ่าตัด
- ลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดดำจนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อปอดและหัวใจ
- มีแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
- แผลหายช้า
- ชาบริเวณหัวนม
- ชาบริเวณหัวนมและเต้านม ส่วนใหญ่จะดีขึ้นหลัง 3-6 เดือน
- คลำได้ถุงซิลิโคน
– Wound Separation
- พังผืดรัดถุงเต้านม ทำให้เต้านมผิดรูป
- หัวนมและปานนมมีเลือดเลี้ยงไม่พอ
- พังผืดรัดถุงเต้านม ทำให้เต้านมผิดรูป
- คลำได้ผิวหนังเป็นคลี่นของถุงซิลิโคน
- การตั้งครรภ์หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังการผ่าตัดมีผลต่อรูปทรงและอาจจะต้องแก้ไขใหม่