4 แผลหลักในการยกกระชับหน้าอก
มีผู้หญิงหลายๆคนมาปรึกษาเรื่องหน้าอกหย่อนคล้อยลง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆคน พอใจในหน้าอกตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากหน้าอกที่ไม่เคยมีหรือมีน้อย cup A กลายไปได้ถึงหน้าอกใหญ่ถึงใหญ่มาก cup C cup D แล้วอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น หน้าอกกำลังสวยเลย แต่วันเวลาก็ผ่านไป หลังคลอด หลังให้นม ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป หน้าอกหน้าใจก็หายไป หน้าอกที่เคยขยายขนาด จนสวย ไม่เพียงแต่ลดขนาดลง แต่กลับซ้ำด้วยความหย่อนคล้อยตามมาด้วย จึงต้องการแก้ไข ซึ่งหน้าอกแบบนี้ไม่ได้พบเฉพาะคนตั้งครรภ์วัยคุณแม่หลังคลอดหลังให้นมบุตรเท่านั้น แต่เกิดได้ในคนลดความอ้วนด้วย จึงต้องการการยกกระชับเพื่อให้หน้าอกตึงขึ้น เด้งขึ้น แต่ก็กลัวเรื่องแผลเป็น ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบแผลน้อย แผลมาก แบบไหนเลือกกันอย่างไร ที่จริงก็คงไม่มีใครอยากได้แผลผ่าตัดยาวๆ จริงไหมครับ
การแก้ไข้หน้าอกหย่อนคล้อย บางคนแก้ไขได้ด้วยการเสริมหน้าอกอย่างเดียว แบบนี้แผลจะน้อยที่สุด แต่จะเหมาะกับใครไม่เหมาะกับใคร หาอ่านได้ในบทความเรื่อง 3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเสริมหน้าอกเพื่อแก้หน้าอกหย่อนคล้อย โดยหมอฝนกมลวรรณและผมได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับคนที่ไม่เหมาะที่จะแก้ไขด้วยการเสริมหน้าอกอย่างเดียว แต่ต้องยกกระชับด้วย ต้องมีความเข้าใจว่าแผลผ่าตัดแบบไหนแก้ไขอะไรได้บ้าง เหมาะกับใครไม่เหมาะกับใคร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
แผลยกกระชับ 4 แบบ
ปกติการยกกระชับเต้านมมีแผล 4 แบบด้วยกัน คือ
แบบที่ 1 มีแผลเฉพาะขอบบนของปานนม แบบนี้แผลน้อยที่สุด ใช้เฉพาะการการยกหัวนมขึ้นเท่านั้น และยกได้ไม่มาก ประมาณ 1-2 เซนติเมตร แต่ไม่เปลี่ยนแปลงรูปร่างของหน้าอก ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่หน้าอกได้รูปทรงอยู่แล้ว แต่มีหัวนมต่ำอย่างเดียว แต่มีข้อเสีย คือ แผลผ่าตัดมักจะยืดออกเห็นเป็นแผลเป็นกว้างๆ ไม่ค่อยสวย และหัวนมมักเป็นรูปวงรี แทนที่จะกลม จึงไม่ค่อยนิยมทำแล้วในปัจจุบัน

แบบที่ 2 แผลรอบหัวนม หรือเรียกว่า donut lift มีข้อดีคือแผลน้อย คนที่มีปานนมกว้าง และต้องการลดขนาดปานนมด้วย แต่มีข้อเสีย คือ ยกหัวนมได้ไม่มาก แผลรอบหัวนมเป็นเหมือนฝาจีบในช่วงแรกซึ่งจะดีขึ้นหลัง 3-6 เดือน และข้อเสียสุดท้ายคือ หน้าอกจะแบนๆ เหมือนฟักทอง ถ้ายกมากเกินไปกว่า 2 เซนติเมตร
แบบนี้มักใช้แก้หน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก ส่วนใหญ่ใช้ร่วมกับการเสริมซิลิโคนเพื่อแก้หน้าอกหย่อนที่หัวนมหย่อนลงมาไม่เกิน 2 เซนติเมตร

แบบที่ 3 แผลรอบหัวนมและมีแนวตั้งลงมาตรงๆ หรือ lollipop มีข้อดีคือแผลเป็นไม่ยาวมาก ใช้เวลผ่าตัดน้อยและเก็บผิวหนังส่วนเกินทางด้านข้างได้ดี แต่มีข้อเสีย คือ ถ้าหน้าอกหย่อนมากจะเกิบผิวหนังได้ไม่หมดโดยเฉพาะผิวหนังส่วนเกินในแนวบนล่าง และช่วงแรกหน้าอกจะรูปร่างไม่สวย คือด้านล่างของหน้าอกจะแบนๆ แต่รอประมาณ 3-6 เดือนจะเข้ารูปมากขึ้น
แบบนี้จะใช้ในกรณีที่หน้าอกหย่อนคล้อยได้ทุกระดับ แต่ระยะระหว่างหัวนมที่ต้องการถึงขอบล่างของหน้าอกไม่ควรเกิน 9 เซนติเมตร

แบบที่ 4 แผลเป็นรูปสมอเรือ หรือ inverted T มีข้อดี คือ เก็บผิวหนังและเนื้อนมที่หย่อนได้ดีที่สุด และหน้าอกสวยทันที แต่มีข้อเสียคือ แผลเป็นยาว ใช้เวลาผ่าตัดนาน
แบบนี้จะใช้ในกรณีที่หน้าอกหย่อนคล้อยได้ทุกระดับ

พอจะสรุปได้ไหมครับว่า ถ้าหน้าอกไม่หย่อนมาก การผ่าตัดเพื่อยกหัวนมเป็นหลัก และยกไม่เกิน 2 เซนติเมตร ก็ทำเป็นแบบแผลน้อย คือรอบหัวนมได้ ถ้าเต้านมหย่อนปานกลาง และผิวหนังเกินไม่มาก ก็ทำเป็นแผลแนวตั้งอย่างเดียวก็เพียงพอ แต่ถ้าหน้าอกหย่อนมาก และมีผิวหนังส่วนเกินมาก ควรยกกระชับแบบสมอเรือ ถ้าเลือกการกระชับหน้าอกด้วยแผลสั้นแล้วหน้าอกไม่สวย จะยกกระชับไปทำไม ดังนั้นอย่าให้ความกลัวเรื่องแผลเป็นมาเป็นอุปสรรคต่อความสวยของหน้าอกคุณ
รับชมคลิป 4 แผลหลัก ยกกระชับหน้าอก ใครเหมาะกับแบบไหน?
ปรึกษาทีมแพทย์ BeContour
ท่านที่มีปัญหาต้องการปรึกษา สอบถามทุกเรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรม สามารถสอบถามได้ทาง LINE @becontour (คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน) หรือโทร 065-528-9264